วันที่ 14 ก.ย. นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้หารือกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ถึงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท โดยได้แลกเปลี่ยนความเป็นห่วงเสถียรภาพแต่ต้องติดตามรูปแบบที่ออกมาเพราะยังไม่มีความชัดเจน และถ้าทำรูปแบบเฉพาะกลุ่ม จะประหยัดงบประมาณได้มากกว่า ไม่ใช่ทุกคนต้องการ 10,000 บาท รวมทั้งเรื่องเสถียงภาพการทำนโยบายต่างๆ ต้องฉายภาพระยะปานกลางให้ชัด ทั้งรายจ่าย หนี้ ขาดดุลเป็นอย่างไร เช่น ช่วยสร้างความเชื่อมั่น วินัยการเงินการคลัง
นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลกับนายกฯ ไปว่า การฟื้นตัวเศรษฐกิจภาพรวมตอนนี้ ตัวเลขโดยรวมแม้จะขยายตัวแค่ 1.8% ในไตรมาส 2 ปี 66 แต่ที่มาการเติบโตที่ผ่านมาการบริโภคฟื้นตัวเติบโตได้ดี 2 ไตรมาสติดต่อกัน ซึ่งที่สิ่งขาดคือการลงทุนที่มีความจำเป็นต่อเศรษฐกิจไทย
“จากที่คุยกับนายกฯ ได้แชร์ความเป็นห่วง และนายกฯ ได้รับฟัง แต่เข้าใจโลกความเป็นจริงต้องมีนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลออกมา จะดูว่านโยบายออกมาคือต้องไม่ได้ทำลาย ไม่กระทบเสถียรภาพเยอะเกินไป ไม่เกิดสิ่งไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น ซึ่งเงินดิจิทัล 5.6 แสนล้านบาท ขึ้นอยู่กับรูปแบบยังขาดความชัดเจน ถ้าออกมาเป็นดิจิทัลแอสเซ็ท ได้พูดมาตลอดว่าไม่สนับสนุน เพราะจะเป็นตัวกลางชำระเงิน ไม่เอื้อเสถียรภาพ ถ้าเป็นอี-มันนี่ ก็เป็นรูปแบบที่มีอยู่ในระบบปัจจุบัน ถ้าเป็นแบบนั้น ต้องดูว่าไปเกิดอุปสงค์กระตุ้นเศรษฐกิจและผลกระทบการคลังอย่างไร”
นายเศรษฐพุฒิ กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ได้พูดคุยกับนายกฯ แลกเปลี่ยนข้อมูลถึงข้อระมัดระวังของ ธปทคำพูดจาก ทดลองปั่นสล็อต. ไป ไทยต้องให้ความสำคัญเรื่องเสถียรภาพ จับตามองในเรื่องนี้อยู่ โดยเสถียรภาพหลายมิติ ที่กังวลเป็นพิเศษ คือ เสถียรภาพการคลังต้องมีเสถียรภาพ เช่น สหรัฐ ยังมีเครดิตเรตติ้งลด ไม่เห็นความสำคัญเสถียรภาพการคลัง ธปทคำพูดจาก ฟรี เกมสล็อตทดลองเล่น. จึงต้องดำเนินนโยบายเสถียรภาพอยู่
ส่วนมาตรการพักหนี้ ขึ้นอยู่กับรูปแบบที่จะทำ มองว่าการพักหนี้ไม่ควรเป็นเครื่องมือหลัก และไม่ควรเป็นวงกว้าง ซึ่งได้แสดงความกังวลต่อรัฐบาลไป โดยการพักหนี้ในวงกว้างไม่เหมาะสม แต่จำเป็นในช่วงจังหวะเหมาะสมชั่วคราว เช่น ช่วงโควิดถูกล็อกดาวน์เพราะได้รับผลกระทบ ซึ่งการพักหนี้ทุกคนไม่เหมาะเพราะผลข้างเคียงเยอะ หนี้เกษตรกรบางกลุ่มมีศักยภาพ ปิดจบหนี้ได้ ชำระแล้วให้มีแรงจูงใจทำต่อ แต่บางกลุ่มหนี้เกษตรกร เป็นหนี้เรื้อรัง ปิดจบยาก อายุเยอะปิดไม่ได้ ถ้าพักก็ไม่ช่วย ต้องสร้างรายได้และมีมาตรการปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบและหนี้เรื้อรัง โดย ธปท. เป็นห่วงและเตือนไป แต่ทางรัฐบาลดูเหมือนรับฟัง แต่เรื่องนโยบายเป็นอย่างไรก็อยู่ที่การตัดสินใจ
“ประเด็นข้อกังวลเรื่องการขาดดุลแฝด ทั้งดุลบัญชีเดินสะพัด และดุลบัญชีการคลัง หากมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลนั้น มองว่าขาดดุลแฝดอาจเกิดได้แต่ไม่ง่าย ไม่ได้กังวลมหาศาล และมองว่าขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเริ่มกลับมา และปี 67 การท่องเที่ยวกลับมาทำให้ดุลบัญชีเดินสะพัดจะดีขึ้น แต่ถ้าเกิดขาดดุลแฝดจริง ก็ไม่ได้ห่วง แต่เป็นห่วงภาระการคลังมากกว่า”